3 ขั้นตอนการสร้าง OKRs
“ในบทความที่แล้วเราได้ทำความรู้จักกับ OKRs กันแล้ว มาบทความนี้เราจะมาลองสร้าง OKRs กันโดย 3 ขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถนำมาใช้ได้กับตัวคุณเอง ทีมงานของคุณ หรือองค์กรของคุณก็ได้”
อ่านบทความก่อนหน้า “OKRs คืออะไร และจะใช้อย่างไรให้เติบโตในปี 2022” ที่นี่
ต่อไปนี้คือ 3ขั้นตอนในการสร้าง OKRs
จากที่เราเรียนรู้มา OKRs ประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ O (Objective) และ KRs(Key Result) ฉะนั้นขั้นตอนของการออกแบบเราจึงเริ่มจาก 2 ส่วนนี้ก่อน และเนื่องจากOKRs ต้องสามารถวัดผลได้ การวัดผลจึงเป็นส่วนสุดท้ายในการทำ OKRs
![pexels-photo-3184292](https://www.optimistic-app.com/wp-content/uploads/sites/14/2022/05/pexels-photo-3184292.jpeg)
กำหนดเป้าหมายของคุณ(O)
อาจเริ่มต้นจากคำถามง่ายๆว่า วัตถุประสงค์คุณคือ”อะไร” ซึ่งเป็นสิ่งที่อธิบายสิ่งที่คุณต้องการทำและกำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุถึงเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
ในการตั้งเป้าหมาย ให้นึกถึงสิ่งที่คุณให้ความสำคัญสูงที่สุดในช่วง
3เดือนข้างหน้า โดยตั้งคำถามกับตัวคุณเองว่า
- สิ่งสำคัญที่สุดที่ฉันต้องทำคืออะไร?
- ฉันต้องเริ่มทำอะไร? ฉันต้องเปลี่ยนอะไร?
- ความสำเร็จของฉันควรเป็นอย่างไร?
ในช่วงแรกๆ เมื่อคุณเริ่มระดมความคิด คุณจะเห็นว่ามีวัตถุประสงค์ของคุณพุดขึ้นมามากมาย นั่นเป็นเรื่องปกติ ตามหลักแล้ว คุณจะต้องทำการจัดเรียงให้เหลือเพียง 1-3 วัตถุประสงค์ที่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อรอบหรือกรอบเวลาของคุณที่กำหนดไว้ โดยหากคุณอยากรู้ว่า OKRs ของคุณจะได้ผลหรือไม่ อาจตั้งคำถามต่อสักหน่อยว่า
- วัตถุประสงค์ของฉันมีความหมายหรือไม่? เพราะวัตถุประสงค์ที่มีความหมายจะแสดงถึงความสำคัญสูงสุด และจะสร้างทิศทางที่ชัดเจนที่สุดแก่คุณ
- กล้าหรือไม่? เพราะเป้าหมายที่ชัดเจนมักจะนำคุณก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง และ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
- มันเป็นแรงบันดาลใจหรือไม่? วัตถุประสงค์ที่สร้างแรงบันดาลใจคือสิ่งที่น่าจดจำ และเสริมสร้างพลังในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งไว้
ซึ่งหากวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของคุณชัดเจน คุณก็พร้อมที่จะสร้างผลลัพธ์หลักของคุณต่อได้แล้ว
กำหนดผลลัพธ์หลักของคุณ(KR)
ผลลัพธ์หลักของคุณ คือบันไดสู่การบรรลุวัตถุประสงค์ของคุณ หากต้องการรู้ว่าผลลัพธ์หลักของคุณควรเป็นอย่างไร ให้ถามคำถามนี้
“3ถึง 5 สิ่งที่คุณกำหนดนั้น สามารถทำให้เป็นจริงในกรอบเวลาที่คุณกำหนด เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของคุณหรือไม่?”
และเนื่องด้วย KR แต่ละข้อที่คุณกำหนด หรือสร้างขึ้น คือผลลัพธ์หลักของคุณ ฉะนั้นก่อนตัดสินใจเลือกข้อใดข้อหนึ่ง ให้ตั้งคำถามต่อไปนี้
- KR ของฉันเฉพาะเจาะจงเพียงพอหรือไม่ เพราะ Key Result นั้นต้องสามารถบอกได้ว่า ต้องเกิดอะไรและเกิดเมื่อไหร่
- มีความท้าทายและทำได้จริง? การตั้งความท้าทาย เพื่อให้เกิดความทะเยอทะยานนั้น ต้องถูกตั้งบนสมมติฐานที่สามารถทำได้จริงตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้
- สามารถวัดผลได้หรือไม่? ผลลัพธ์หลักของคุณต้องระบุเกณฑ์ที่ใช้ชี้วัดได้อย่างชัดเจนว่าจุดที่เรียกว่าสำเร็จของคุณคืออะไร
ติดตามและวัดผลให้คะแนน OKRs ของคุณ
คุณจะต้องติดตาม OKRs ของคุณโดยมีการวัดผลในแต่ละรอบ ซึ่งวิธีการในการชี้วัดสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- Andy Grove ใช้วิธีง่ายในการให้คะแนน เมื่อสิ้นสุดในแต่ละรอบ โดยการตั้งคำถามว่า พบผลลัพธ์การทำ ใช่หรือไม่?
- บางที่อาจวัดผลโดยให้เป็นระดับสี เช่น สีแดง หมายถึงผิดพลาด
สีเหลือง หมายถึงมีความคืบหน้า สีเขียว หมายถึงบรรลุเป้าหมาย
- หรืออาจใช้วิธีมาตราส่วน เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้คะแนนผลลัพธ์หลักในแต่ละรายการ
![pexels-photo](https://www.optimistic-app.com/wp-content/uploads/sites/14/2022/05/pexels-photo.jpg)
ตัวอย่าง หากองค์กรต้องการเพิ่มยอดขาย เป็น 100 ล้าน ภายใน3 เดือน
เราจะเห็นได้ว่า Objective คือยอดขาย 100 ล้าน
การสร้าง KR เราจะพิจารณาอะไรที่จะทำให้เกิดตัวเลข 100 ล้านได้ ในการขายมีปัจจัยดังนี้ ราคาขาย ปริมาณการขาย สัดส่วนการขาย เป็นต้น
ดังนั้นเราจะสร้าง OKRs ได้ดังนี้
Objective คือยอดขาย 100 ล้าน
KR1= ราคาขายสินค้าที่มีโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10% ภายในเดือนแรก
KR2=ปริมาณการขายต้องได้ 1หมื่นตัน ภายในเดือนที่สอง
KR3=สัดส่วนการขายต้องได้ 70:30 (ผลิตขายเอง:ผลิตส่ง)ในเดือนสาม
ตัวอย่าง OKRs ร้านค้าแห่งหนึ่งต้องการขายสินค้าผ่าน Shopee
พิจารณาการจะขายของผ่านShopee คุณต้องมีอะไรเป็นปัจจัยบ้าง เช่นร้านค้าบน Shopee ,กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ยอดขายที่ต้องการ เป็นต้น
Objective คือต้องการขายของผ่านช่องShopee
KR1=ต้องสร้างร้านค้าบนShopee กำหนดเวลาให้เสร็จภายใน2 สัปดาห์
KR2=ร้านค้าต้องติด Top5 ของการค้นหาภายใน 2เดือน
KR3=มีกลุ่มเป้าหมายเข้ามาชมร้านค้าอย่างน้อย 1000 ครั้ง/เดือน
KR4=ต้องมีการสั่งซื้ออย่างน้อย 100 คำสั่ง/เดือน (มีคนเข้ามา1000คนต้องมีคนสั่ง 100 คน Conversion Rate คือ10%)
KR5=มียอดขายอย่างน้อย 100,000 บาท/เดือน ภายในเดือนที่3
สรุปการสร้าง OKRs
- เริ่มต้นคุณต้องสร้างโดย กำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมายที่ชัดเจนก่อน(O) วัตถุประสงค์คือสิ่งที่ทำและต้องบรรลุตามกรอบเวลาที่กำหนด
- จากนั้นสร้างผลลัพธ์หลัก 3-5 รายการ(KRs) คือการหาปัจจัยและเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและวัดผลในการทำให้มันเกิดขึ้นมาได้
- ติดตามวัดผลให้คะแนน OKRs ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการวัดผลลัพธ์ และเน้นประสิทธิผล ถ้าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นยังห่างไกลกับเป้าหมายที่ต้องการ เราสามารถกลับมาแก้ไข ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานได้ โดยต้องยึดผลลัพธ์ที่ต้องการเอาไว้
ข้อสำคัญสำหรับการนำ OKRs มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กร
คือการนำมาตั้งเป้าหมายที่สามารถท้าทายให้ทุกคนอยากบรรลุเป้าหมายสู่ความสำเร็จได้ ไม่ใช่นำมาวัดศักยภาพส่วนบุคคลเพื่อประเมินผลในการเพิ่มเงินเดือน
OKRs ที่ดีต้องมีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เข้าใจได้ และต้องไม่ตั้งเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ง่ายจนเกินไป แต่ก็ต้องไม่ยากจนเกิดความท้อ สร้างแรงฮึดในการเอาชนะ
และOKRs จะต้องมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ประเมินผลได้ และต้องโปร่งใส
จากตัวอย่างและวิธีการที่นำเสนอในบทความนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเพิ่มความเข้าใจ และเสริมสร้างประสิทธิภาพในการออกแบบ OKRs ของท่านได้